เมื่อคู่รักตกลงปลงใจที่จะใช้ชีวิตร่วมกัน สิ่งที่ต้องทำเป็นอันดับแรกก็คือการจัด งานแต่งงาน เป็นวัฒนธรรมที่สืบทอดกันมาตั้งแต่สมัยโบราณ การแต่งงานคือจุดเริ่มต้นของชีวิตคู่ เพราะฉะนั้นจะต้องเป็นวันที่น่าจดจำมากที่สุด
ขั้นตอนของการจัดงานแต่งงาน มีรายละเอียดยิบย่อยที่มีความสำคัญแตกต่างกัน บ่าวสาวจะต้องเรียงลำดับตามความสำคัญ ซึ่งต้องบอกเลยว่าเป็นเรื่องที่น่าปวดหัวมาก เพราะมีหลายอย่างที่จะต้องเตรียม บ้านไหนที่ไม่เคยจัดงานแต่งงานรับรองว่าปวดหัวแน่นอน วันนี้เราจะขอเป็นตัวช่วยให้คุณจัดงานแต่งงานได้อย่างราบรื่น มาดู 9 ขั้นตอนของการวางแผนจัดงานแต่งงานกันเลย
1. หาฤกษ์ งานแต่งงาน
ฤกษ์แต่งงานถือว่าสำคัญมากๆ บ่าวสาวควรหาวันและเวลาที่เป็นมงคลของทั้งคู่ โดยหาได้จากปฏิทินจีน หมอดู ซินแส หรือพระอาจารย์ที่นับถือ เมื่อได้ฤกษ์แต่งงานมาแล้วการจัดงานแต่งงานในลำดับต่อไปก็จะง่ายขึ้น สามารถไปดูวันและจองสถานที่ได้เลย
2. ลิสต์รายชื่อแขกของทั้งสองฝ่าย
แขกผู้ใหญ่ที่จะมาร่วมงานสำคัญของเรา ถือเป็นบุคคลสำคัญมากๆ เพราะฉะนั้นควรลิสต์รายชื่อตั้งแต่เนิ่นๆ อย่าให้ตกหล่น อาจจะแยกเป็นแขก VIP ญาติผู้ใหญ่ เพื่อนร่วมงาน เพื่อนสนิท เพื่อนสมัยเรียน และควรลิสต์รายชื่อสำหรับผู้ที่จะมาเป็นเพื่อนเจ้าสาวและประธานในพิธีไว้ด้วย

3. หาสถานที่จัด งานแต่งงาน
เมื่อได้ฤกษ์แต่งงานมาแล้ว ลิสต์รายชื่อแขกเพื่อดูจำนวนของแขกที่มาร่วมงาน ลำดับต่อไปที่ควรทำก็คือการหาสถานที่จัดงานแต่งงาน ดูวันว่างของสถานที่นั้นๆ สามารถรองรับแขกของเราได้พอหรือไม่ นี่เป็นเหตุผลที่เราจะต้องลิสต์รายชื่อแขกที่มาร่วมงานกันก่อน สถานที่จัดงานมีให้เลือกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเรือนไทย โรงแรม รีสอร์ท ควรดูว่ามีที่จอดรถเพียงพอ หากแต่งงานในหน้าฝนมีส่วนที่เป็นหลังคาให้หลบฝนหรือไม่ ในส่วนนี้ก็จะมีเจ้าหน้าที่คอยแนะนำให้บ่าวสาว และดูแลความเรียบร้อยภายในงานด้วย
4. Wedding planner
การให้ wedding planner มาช่วยดูแลในเรื่องของการจัดงานแต่งงาน ก็จะทำให้บ่าวสาวสะดวกสบายมากขึ้น ทั้งในเรื่องของพิธีการงานเช้า การจัดขันหมาก นายพิธี เจ้าบ่าวเจ้าสาวจะได้มีเวลาไปเตรียมงานในส่วนอื่นๆได้ แถมยังเบาใจได้ด้วย เพราะมีมืออาชีพมาคอยดูแล
5. ตัดชุดแต่งงาน
สิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้เลยก็คือชุดแต่งงาน รองเท้า เครื่องประดับของเจ้าบ่าวและเจ้าสาว ควรเลือกชุดแต่งงานก่อนวันงานประมาณ 3 เดือน เป็นช่วงเวลาที่ไม่ช้าและไม่เร็วเกินไป ทำให้คู่บ่าวสาวได้มีเวลาตัดสินใจเลือก ก่อนถึงวันงานประมาณ 1 สัปดาห์ บ่าวสาวควรเข้าไปลองชุดอีกครั้ง หากมีตรงไหนต้องแก้ช่างตัดเย็บจะได้ทำให้ทัน
6. หาช่างภาพ ช่างแต่งหน้า
ช่างภาพดังๆ ช่างแต่งหน้าคิวทอง อาจจะต้องจองคิวล่วงหน้ากันก่อน เพราะหากได้ฤกษ์ที่เป็นวันดี มีคนแต่งงานหลายคู่ อาจจะทำให้ไม่ได้ช่างที่เลือกไว้ก็ได้ เทคนิคการเลือกช่างแต่งหน้า บ่าวสาวอาจลองใช้บริการดูสักครั้งก่อน เพื่อดูสไตล์ของช่างว่าเข้ากับเราไหม
7. ถ่ายพรีเวดดิ้ง presentation
ในงานแต่งงานก็ต้องมีรูปสวยๆของคู่บ่าวสาว มี presentation เล่าเรื่องราวของทั้งคู่ บ่าวสาวสามารถเลือกได้เลยว่าต้องการถ่ายรูป ถ่ายพรีเซ้นยังไง ต้องเผื่อเวลาให้ช่างภาพในการทำผลงานกันด้วย

8. เตรียมการ์ดแต่งงาน ของชำร่วย ของรับไหว้
เมื่อได้รายชื่อแขกแล้วก็ต้องจัดหาการ์ดแต่งงาน ของชำร่วยและของรับไหว้เตรียมไว้ ของชำร่วยจะเตรียมให้พอดีกับจำนวนการ์ด หรือเตรียมเผื่อไว้ก็ดีค่ะ ส่วนของรับไหว้ให้ดูจากรายชื่อของญาติผู้ใหญ่ แต่ไม่ควรมีเยอะเกินไปเพราะอาจจะทำให้ขั้นตอนพิธีไหว้ผู้ใหญ่กินเวลานาน
9. เลือก catering จัดเตรียมอาหาร
อาหารในงานแต่งงานมีหลากหลายรูปแบบ ทั้งโต๊ะจีน บุฟเฟ่ต์ ค็อกเทล ควรเลือกให้สอดคล้องกับแขก เช่น หากแขกส่วนใหญ่เป็นผู้ใหญ่ก็ควรเลือกเป็นโต๊ะจีน เพราะจะได้ไม่ต้องลุกไปตักเอง หรือเป็นปาร์ตี้กันเองในครอบครัวและเพื่อนๆ บุฟเฟ่ต์และค็อกเทลก็ถือว่าตอบโจทย์
หากบ่าวสาวมีการวางแผนการจัดงานแต่งงานที่ดี ก็จะทำให้งานออกมาราบรื่น ควรมีเพื่อนสนิทที่เคยแต่งงานแล้ว หรือทีมงานมืออาชีพคอยให้คำปรึกษาด้วย วันงานจะได้ไม่วุ่นวาย บ่าวสาวก็จะมีความสุขกับงานค่ะ
อ่านบทความ 10 สถานที่ จัดงานแต่ง ราคาประหยัดในกรุงเทพฯ
เครดิตภาพทั้งหมดจาก www.canva.com